Project Description

1. สืบ ตม.6 ปิดล้อมที่พักแรงงานต่างด้าว จับกุมยาเสพติดและการพนัน (หวยใต้ดิน)
2. สืบ ตม.6 แกะรอยจาก Socialรวบครูฟุตบอลผิวสี กบดาน OVERSTAY กว่า 2 ปี
3. ตม.นครศรีธรรมราช จับกุมขบวนการค้ากามสาวลาว เปิดร้านคาราโอเกะบังหน้า


ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6 ,พ.ต.อ.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผบก.ตม.6
ร่วมแถลงข่าวจับกุมคดีคนต่างชาติกระทำความผิดรายสำคัญ และคดีที่น่าสนใจ ดังนี้

1. สืบ ตม.6 ปิดล้อมพักแรงงานต่างด้าว จับกุมยาเสพติดและการพนัน (หวยใต้ดิน)
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์,พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6 ,พ.ต.อ.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผบก.ตม.6 และ พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.๖ สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกับการสืบสวนสอบลงพื้นที่สืบสวน หาข่าว ข้อมูลกลุ่มคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง หรือลักลอบทำงานโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อเป็นการตรวจสอบป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสCOVID 19 โดยงานสืบสวนฯได้รับหนังสือร้องเรียนว่า ในพื้นที่ ต.ปริก อ.สะเดา จว.สงขลา มีสถานประกอบการ
ปศุสัตว์ (ฟาร์มสุกร) ตั้งอยู่ในบริเวณหมู่ที่ 1 ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการใช้แรงงานต่างด้าวในกิจการดังกล่าว และให้ข้อมูลว่า มีการมั่วสุมเสพยาเสพติดและ เล่นการพนัน (หวยใต้ดินไทย และมาเลเซีย) จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลและทำคำร้องขอหมายค้นไปยังศาลจังหวัดนาทวี เพื่อเข้าตรวจค้น


เมื่อศาลนาทวีอนุมัติหมายค้นแล้ว ชุดกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 นำโดย พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.1 นำกำลังเข้าขอตรวจค้นพร้อมกับแสดงหมายค้นให้แก่ผู้ครอบครองสถานที่ จากการตรวจค้นฟาร์มสุกรดังกล่าว พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 37 คน และแรงงานสัญชาติลาว จำนวน 2 คน และตรวจสอบ-จับกุม คนไทย และคนต่างด้าวที่การกระทำความผิดดังนี้


1.1 จับกุม นาย LIN AUNG และนาย Mr.EIKE AUNG สัญชาติเมียนมา ในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย”
1.2 จับกุม นาย วิน (Mr.WIN) สัญชาติเมียนมา ในข้อหา “ผลิตและครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท๕ (น้ำกระท่อม, กากใบพืชกระท่อม)โดยผิดกฎหมาย”
1.3 จับกุม นางสุกัญญา ในข้อหา “เป็นคนเดินโพยสลากกินรวบ (หวยใต้ดิน) รับกินรับใช้ฝ่ายเจ้ามือ พนันเอาทรัพย์สินซึ่งกันและกัน โดยผิดกฎหมาย”
นำส่ง พงส.สภ.สะเดาเพื่อดำเนินคดีต่อไป

2. สืบ ตม.6 แกะรอยจาก Social รวบครูฟุตบอลผิวสี กบดาน OVERSTAY กว่า 2 ปี
ตามสั่งการกำชับการปฏิบัติของ พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6 ให้ทุกหน่วยงานในสังกัด บก.ตม.6 เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง และคนต่างด้าวที่กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาต่างๆ ในเขตพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ นั้น


พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.6 จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.6 หาข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลต่างด้าวที่กระทำความผิดทั้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในพื้นที่ จว.ภูเก็ต มีความหลากหลายของบุคคลต่างด้าวในพื้นที่จึงได้ทำการหาข้อมูลกิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับคนต่างด้าว โดยมีการหาข้อมูลในสื่อออนไลน์ (FACEBOOK) พบคนต่างชาติผิวสีทำหน้าที่เป็นครูฝึกสอนฟุตบอลอยู่ในสโมสรแห่งหนึ่ง จึงได้ทำการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจากสื่อออนไลน์ รวบรวมข้อมูลที่สามารถบ่งชี้ถึงตัวบุคคลเป้าหมาย (ชื่อ-สกุล,กลุ่มสัญชาติผิวสี) และได้นำข้อมูลของคนต่างด้าวผิวสีเป้าหมายเข้าสืบค้นในระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics) พบว่าคนต่างด้าวเป้าหมายคือ นาย NTSANDO สัญชาติแคมเมอรูน ซึ่งอยู่เกินกว่ากำหนดอนุญาตกว่า 2 ปี โดยไม่ได้มีการขอขยายเวลาอนุญาตแต่อย่างใด และเชื่อว่า นาย NTSANDO ยังคงทำงานเป็นครูฝึกสอนฟุตบอลอยู่ในสโมสรดังกล่าว


ชุดสืบสวนฯ จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบพบนาย NTSANDO ยังคงทำงานเป็นครูฝึกสอนฟุตบอลอยู่จริงโดยไม่มีการขยายเวลาอนุญาต (ต่อ VISA) และไม่มีการขอใบอนุญาตเพื่อมาทำงานอย่างถูกกฎหมายแต่อย่างใด ชุดสืบสวนฯจึงได้ทำการควบคุมตัวและดำเนินคดีในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่ากำหนดอนุญาต และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่ง สภ.วิชิต จว.ภูเก็ตเพื่อดำเนินคดีต่อไป


3. ตม.นครศรีธรรมราช จับกุมขบวนการค้ากามสาวลาว เปิดร้านคาราโอเกะบังหน้า
จากกรณีได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีหญิงลาวลักลอบค้าประเวณีในพื้นที่รับผิดชอบ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม เข้าตรวจสอบและวางแผนการล่อซื้อ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ก.ค.63 เวลาประมาณ 23.00 น. ณ ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งใน ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จว.นครศรีธรรมราช โดยจับกุม
1) น.ส.โซบ ชื่อเล่น สุ (MRS.SOP) อายุ 33 ปี สัญชาติลาว เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองควนโดน จว.สตูล ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรประเภท ผ.30 โดยวันเกิดเหตุ ชุดสืบสวนฯ วางแผนให้เจ้าหน้าที่ปลอมตัวเป็นผู้ซื้อบริการโดยตกลงเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท แบ่งให้เจ้าของร้าน จำนวน 300 บาท เป็นค่าซื้อชั่วโมง หลังจากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่ที่ปลอมตัวไปเปิดห้องพักชื่อ ต้องรักรีสอร์ท โดย น.ส.โซบ เป็นคนจ่าย ค่าห้องพักเอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าตรวจค้นห้องพักพบ น.ส.โซบ หรือ สุ นุ่งผ้าเช็ดตัวมาเปิดประตูให้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมพร้อมแสดงของกลางธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ และแจ้งข้อหา “เข้าติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้า ตามถนน สาธารณสถาน หรือในที่อื่นใด เพื่อการค้าประเวณี อันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอาย หรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชน”


2) น.ส.มณีวรรณ (MRS.MANIVANH) อายุ 30 ปี สัญชาติลาว ถือหนังสือเดินทางสัญชาติลาว ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่เข้าล่อซื้อ พบว่ากำลังให้บริการแขกที่มานั่งดื่มภายในร้านซึ่งมีการค้าประเวณีแอบแฝง จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เข้าไปมั่วสุมในสถานการค้าประเวณี เพื่อประโยชน์ในการค้าประเวณีของตัวเองหรือผู้อื่น” และ
3) นางจารุวรรณ อายุ 54 ปี ในข้อหา “เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นยินยอมก็ตาม”
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวบุคคลทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอวด เพื่อดำเนินคดีต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือ เว็บไซต์ www.immigration.go.th