Project Description

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ. ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมชุดสืบสวนฯ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้
กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ให้ทำการสืบสวนคดีฉ้อโกงเนื่องจากมีการร้องเรียนจากชาวฟิลิปปินส์ที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้มีกลุ่มชาวฟิลิปปินส์ร่วมกับหญิงไทยได้จัดตั้งบริษัท Filipino Cooperative Investment Loan จำกัด รับบริการธุรกรรมทางการเงินให้กับชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งได้มีการโฆษณาเชิญชวนผ่านทางสื่อโซเชี่ยล เช่น FB, Line โดยบริษัทดังกล่าวมี น.ส.Lenie อายุ 30 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าของบริษัท โดยเมื่อ 3 ปีก่อน น.ส.Lenie ได้ทำธุรกิจส่วนตัวในการรับแลกเปลี่ยนเงินและโอนเงินกลับไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีลูกค้าเป็นชาวฟิลิปปินส์ที่มาทำงานในประเทศไทยอยู่เป็นจำนวนมาก โดย น.ส.Lenie จะคิดอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่มากกว่าธนาคารรวมถึงค่าธรรมเนียม
ในการโอนจนสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับชาวฟิลิปปินส์ในไทยจำนวนมาก จึงทำให้ น.ส.Lenie เป็นผู้มีชื่อเสียง จากนั้น น.ส.Lenie ได้ชักชวนกลุ่มลูกค้าของทางบริษัทให้มาร่วมลงทุนกิจการปล่อยเงินกู้ โดยมีรูปแบบแชร์ลูกโซ่ สามารถทำกำไรได้ถึง 15% ภายใน 4 สัปดาห์ ทำให้ลูกค้ามีผู้สนใจเป็นจำนวนมากในแต่ละเดือน น.ส.Lenie มีเงินทุนหมุนเวียนมากกว่า 50 ล้านบาท จนกระทั่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าของ น.ส.Lenie ไม่สามารถติดต่อ น.ส.Lenie ได้ทำให้กลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการการส่งเงินกลับประเทศปลายทางไม่ได้รับเงินโอน กลุ่มลูกค้าที่ลงทุนในการปล่อยเงินกู้ก็ไม่ได้รับเงินปันผลตามที่ตกลงไว้ ทำให้มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับทาง กก.สส.บก.ตม.1 เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายที่ได้รับแจ้ง 10กว่าล้านบาทและจากการสืบสวนเชิงลึกทราบว่ายังมีผู้เสียหายทั้งในไทยและในประเทศเพื่อนบ้านมากกว่า 700 ราย มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 116 ล้านเปโซ หรือ 75 ล้านบาท
ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบข้อมูล น.ส.Lenie พบว่า น.ส.Lenie ได้ชักชวน น.ส.ธัญญาเรศ แฟนสาวชาวไทยเข้ามาเป็นหุ้นส่วน ทำหน้าที่รับโอนเงินจากชาวฟิลิปปินส์จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกติดตามตัวทั้ง 2 คน จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมน.ส.Lenie ได้ที่อาคารสำนักงานแห่งหนึ่งย่านอโศก ขณะย้อนกลับมาเอาเอกสารที่ น.ส.Lenie ได้แอบเปิดไว้ และ น.ส.ธัญญาเรศ สามารถติดตามจับกุมได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ขณะกบดาน ซึ่งทั้ง 2 ถูกออกหมายจับในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” จากการจับกุมครั้งนี้เป็นที่สนใจของชาวฟิลิปปินส์และสื่อมวลชนทางฟิลิปปินส์เป็นจำนวนมาก จนทำให้สื่อทางฟิลิปปินส์ตั้งฉายาให้ น.ส.Lenie เป็น Queens of Scammers
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สืบสวน บก.ตม1 จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ให้ผู้ถูกจับ ทราบว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” ส่งพนักงานสอบสวน ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง