Project Description

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวจับกุม โดยมีรายละเอียด ดังนี้


สืบเนื่องจากคดีนี้พบว่าเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งได้เผยแพร่ภาพว่า มีชาวต่างชาติ 2 คน มีลักษณะเป็นขบวนการลักทรัพย์ กล่าวคือคนหนึ่งทำทีมาซื้อสินค้าคือขนมจีน และขอแลกธนบัตร อีกคนทำหน้าที่ชวนแม่ค้าคุยจนสับสน พอสบโอกาสก็ลักทรัพย์เงินสดจำนวนเงิน 20,000 บาท จากนั้นได้หลบหนีไป จากการตรวจสอบ ภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพชายต้องสงสัยน่าเชื่อว่าเป็นชาวต่างชาติ มีรูปพรรณสวมเสื้อแขนยาวลายสก็อต กางเกงสแล็คสีดำ อีกคนสวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้น สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าทั้งสองคน เดินเข้ามาที่ร้านขายขนมจีน โดยชายเสื้อลาย สก็อตทำทีขอแลกธนบัตรกับเจ้าของร้าน ส่วนชายเสื้อเหลืองซื้อขนมจีนจากแม่เจ้าของร้าน ระหว่างนี้ทั้ง 2 คน ได้ทำทีชวนคุยให้แม่ค้าสับสน ก่อนที่ชายเสื้อเหลืองจะชวนแม่เจ้าของร้านไปอีกจุด ส่วนชายเสื้อลายสก็อต ก็ชวนแม่ค้าขายขนมจีนพูดคุยจนสับสน มือซ้ายของเขากำธนบัตรไว้ปึกใหญ่ ก่อนจะส่งธนบัตรส่วนหนึ่งคืนให้แม่ค้า แต่ยังมีอีก 1 ปึก ติดอยู่ในมือ แล้วรีบเก็บใส่กระเป๋ากางเกงของตนทันที เหตุเกิดที่ร้านขนมจีนในตลาดเจ้าพรหม ตำบลหอรัตนไตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องสงสัยดังกล่าวน่าเชื่อว่าก่อเหตุในหลายพื้นที่


ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2563 ได้รับแจ้งอีกครั้ง พบพฤติการณ์ มีชายชาวต่างชาติ มีรูปพรรณสัณฐานและเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ และรูปแบบการก่อเหตุลักษณะคล้ายกับการก่อเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 จว.อยุธยา กล่าวคือ ทำทีมาขอแลกธนบัตรเพื่อเก็บสะสม คนร้ายก็ชวนคุยให้สับสน พอสบโอกาสก็ลักทรัพย์เป็นกระเป๋าเงิน ซึ่งมีเงินอยู่ในกระเป๋าไปจำนวน 40,000 บาท ก่อนเดินหลบหนีออกจากร้านไป เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยผู้ก่อเหตุเป็น ชายชาวต่างชาติ ต่อมาผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ถูกศาลจังหวัดลำปางออกหมายจับที่ 198/2563 ลง 15 ธ.ค.63 ข้อหา “ลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น”
จนนำไปสู่การสืบสวนจับกุม โดยมีพฤติการณ์ในการจับกุมกล่าวคือ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.สส.สตม. ได้หาข่าวใช้เทคนิคสืบสวนจนทราบว่าชาวต่างชาติที่ก่อเหตุในคดีนี้ น่าเชื่อว่าเป็นกลุ่มแก๊งแขกผิวขาว มีลักษณะรูปพรรณคล้ายกับบุคคลในภาพที่ปรากฎในสื่อข่าวทางโทรทัศน์ จึงสืบสวนหาข่าวจนทราบว่าหลบหนีซ่อนตัวที่บริเวณ ถนนพระราม 9 ซอย 17 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงสืบสวนหาข่าวและเฝ้าติดตามตัวว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ จนกระทั่งได้รับการยืนยันจากสายลับในพื้นที่พบผู้ต้องสงสัยตามภาพถ่ายที่ปรากฎในโทรทัศน์ หลบหนีอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเข้าทำการตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย พบ MR.BOURI MOHSEN มีรูปพรรณสันฐาน ตรงกับบุคคลเดียวกับผู้ต้องหาตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบกับระบบฐานข้อมูล PIBICS และ BIOMETRICS ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่ารายละเอียดตรงตามหมายจับของศาลจังหวัดลำปางจริง จึงได้แสดงหมายจับ ให้ MR.BOURI ดู โดยให้การยอมรับเบื้องต้นว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดลำปางจริง และยังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน จึงได้จับกุมตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้าออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวง
ทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178หรือที่ www.immigration.go.th
จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง