Project Description

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.๓, พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ตม.๓, พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.ตม.๓, พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด ผกก.สส.บก.ตม.๓ ร่วมแถลงข่าว ดังนี้
ทลายขบวนการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมาย จังหวัดสระแก้ว สืบเนื่องจากการจับกุมการขนคนงานเมื่อวันที่ ๑ ก.ค.๖๓ กก.สส.บก.ตม.๓ ได้ร่วมกับ ตม.จว.สระแก้ว, ตชด.๑๒, สภ.บ้านทัพไทย และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจตาพระยา สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับกับลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ซึ่งขบวนการลักลอบนำคนต่างด้าวเพื่อเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยในช่วงสถานการณ์โควิดด่านชายแดนปิด บุคคลต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวได้ลักลอบเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยไป ต่อมาได้ลักลอบเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีกครั้งตามช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดน อ.ตาพระยา จว.สระแก้ว จากการสืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานดังกล่าวที่ บริเวณบ้านคลองแผง ม.๑๐ ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จว.สระแก้ว จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ต่อมาในวันที่ ๘ ก.ค.๖๓ จึงได้ร่วมกำลังกันไปสุ่มสังเกตการณ์อยู่ในบริเวณทุ่งนา ม.๑๐ บ้านคลองแผงฯ ที่เกิดเหตุจนกระทั่งเวลาประมาณ ๒๒.๓๐ น.ได้เริ่มสังเกตเห็นกลุ่มคนต่างด้าว จำนวนกว่า ๖๐ คน รวมกลุ่มมั่วสุมกันเป็นจำนวนมากไม่พบว่ามีสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือสิ่งป้องกันเชื้อโรคซึ่งอาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดเชื้อโรคได้ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่คนต่างด้าวบางส่วนได้พยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อตรวจสอบหนังสือเดินทาง หรือเอกสารอื่นที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง

ผลการตรวจสอบพบเป็นคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จำนวน ๖๓ คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มดังนี้ ๑)กลุ่มมีหนังสือเดินทางจำนวน ๓๒ คน เป็นชาย ๑๙ คน หญิง ๑๓ คน, ๒)กลุ่มไม่มีหนังสือเดินทาง จำนวน ๒๗ คน เป็นชาย ๑๕ คน หญิง ๑๒ คน และเป็นผู้ติดตามหรือบุตรของคนต่างด้าว อีกจำนวน จำนวน ๔ คน
ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันออกเดินทางจากที่พักในประเทศกัมพูชาจะมีผู้ขับขี่รถยนต์ขนส่งไปยัง จุดบ้านบึงตะกวน โดยพำนักอยู่รวมกันอย่างแออัดเป็นเวลา 2 วัน จึงได้เดินทางข้ามฝั่งเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจนถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ภายหลังจะมีผู้นำพาไปพักในสถานที่ใกล้เคียงเพื่อคัดแยกและจำแนกสถานที่เป้าหมายในการเดินทาง โดยเสียค่าใช้จ่ายไม่เท่ากันแล้วแต่ระยะทางเป้าหมายปลายทาง เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ฉบับที่ 1 ข้อ 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548”
ผู้ถูกจับให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวส่ง พงส.สภ.บ้านทัพไทย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของกลุ่มขบวนการลักลอบนำพาจะได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทําความผิดในด้าน
ต่างๆ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทําความผิด กรุณาแจ้งมายัง สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ ๕๐๗ ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร ๑๐๑๒ หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ ๑๑๗๘ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง