Project Description

ตม.2 จับ! ยาเสพติด และ 4 ปากีฯ 1 สาวออสซี่ฐานลักทรัพย์

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้
สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี
รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 และ พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.2 ได้สั่งการให้ ระดมกวาดล้างอาชญากรรม และกวดขันจับกุมการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ,พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการกระทำความผิดกรณีมีการกักตุนสินค้าอุปโภค บริโภค ที่ขายเกินราคา ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
ต่อมา พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม ผกก.กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ว่า ในห้วงระหว่างเดือน มิ.ย.63 กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 และงานสืบสวนในส่วนของ ตม.ทอ. ในสังกัด บก.ตม.2 มีผลการจับกุมคดีสำคัญๆ ดังนี้
1. จับไร่กัญชาเชียงใหม่ ตม.ทอ.เชียงใหม่ ได้รวมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ ในการสืบสวนหาข่าว และได้รับข้อมูลด้านการข่าวจากสายลับว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง ในหมู่ที่ 2 ต.หนองจ๊อม อ.สันทราบ จว.เชียงใหม่ มีการลักลอบปลูกพืชกัญชา จึงได้บูรณาการปฏิบัติเข้าตรวจค้น พบ ต้นกัญชา 33 ต้น และ กัญชาแห้ง 2 ถุง น้ำหนัก 200 กรัม จึงได้ดำเนินการจับกุม นายเอ (นามสมมติ) เจ้าของบ้าน ในฐานความผิด “ผลิตและมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต” และนำส่ง พงส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


2. จับ 4 ปากีฯ และ 1 สาวออสซี ในความผิดฐานลักทรัพย์

2.1 ตม.ทอ.เชียงใหม่ ได้รวมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ ในการสืบสวนหาข่าว กรณีมีชายชาวต่างชาติ 4 ราย ได้ได้ใช้กลอุบายหลอกลวงพนักงานขายร้ายเซเว่นฯ เพื่อเอาเงิน และได้ร่วมสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมได้ ณ ด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก และดำเนินการจับกุมคนต่างด้าวทั้ง 4 ราย ในฐานความผิด “ร่วมกันลักทรัพย์โดยการมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยร่วมกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือรับของโจร” ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่” และนำส่ง พงส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

2.2 ตม.ทอ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ร่วมจับกุม Miss B (นามสมมติ) หญิงชาวออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ในคดีลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ทั้งนี้ เป็นการบูรณาการด้านการข่าวในการสืบสวนและติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ และสามารถดำเนินการจับกุมได้ที่บริเวณหน้าโรงแรมพระสิงห์วิลเลจ ถ.ราชมรรคา ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ และได้นำตัวส่ง พงส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

3. ตม.2 รวบหมายจับ 25 ราย โดยเป็นการประสานข้อมูลด้านการข่าวและนำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์ (BIOMETRICS) เข้ามาใช้ในงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งระบบพิสูจน์อัตลักษณ์ (BIOMETRICS) ได้ตรวจจับบุคลตามหมายจับซึ่งปรากฏผลการปฏิบัติ ดังนี้

ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ 13
ด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต 6
ด่าน ตม.ทอ.เชียงใหม่ 5
ด่าน ตม.ทอ.กรุงเทพ 1
จำนวนผู้ถูกจับกุม (รวม 25 ราย)

ทั้งนี้แยกเป็นคดีสำคัญ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย
(1) กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ได้ประสานข้อมูลด้านการข่าวกับ สภ.เมืองระนอง ภจว.ระนอง ซึ่งศาลจังหวัดระนองได้ออกหมายจับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด ในฐานความผิด “สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน” ทั้งนี้ จากการตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องพบผู้ต้องหาตามหมายจับที่มีส่วนเกี่ยวข้องเดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.63 มากับเที่ยวบิน KE651 จึงได้ดำเนินการตรวจสอบและทำการจับกุมและประสาน สภ.เมืองระนอง ภจว.ระนอง เพื่อทำการควบคุมตัวเพื่อเฝ้าระวัง (ตามมาตรการ State Quarantine) ก่อนนำส่ง พงส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
(2) กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ได้ประสานข้อมูลด้านการข่าวกับ สภ.ทรายขาว จว.กระบี่ ซึ่งศาลจังหวัดกระบี่ได้ออกหมายจับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด และเข้าข่ายความผิดฐาน สนับสนุนฟอกเงิน และสมคบฟอกเงิน (มูลฐานยาเสพติด) โดยบัญชีธนาคารกสิกรไทยของผู้ต้องหาตามหมายจับนี้มีเงินหมุนเวียนระหว่างวันที่ 7 ก.ค. – 20 ก.ย.62 จำนวน 50,968,955 บาท ทั้งนี้ จากการตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องพบผู้ต้องหาตามหมายจับที่มีส่วนเกี่ยวข้องเดินทางกลับจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.63 มากับเที่ยวบิน SQ976 จึงได้ดำเนินการตรวจสอบและทำการจับกุมและประสาน สภ.ทรายขาว ภจว.กระบี่ เพื่อทำการควบคุมตัวเพื่อเฝ้าระวัง (ตามมาตรการ State Quarantine) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

(3) กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ได้ประสานข้อมูลด้านการข่าวกับ สภ.ปานาเระ ภจว.ปัตตานี ซึ่งศาลจังหวัดปัตตานีได้ออกหมายจับบุคคลในฐานความผิด “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีเครื่องกระสุนปืนแบบที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีวัตถุระเบิดแบบที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ทั้งนี้ จากการตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องพบผู้ต้องหาตามหมายจับที่มีส่วนเกี่ยวข้องเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.63 มากับเที่ยวบิน MH784 จึงได้ดำเนินการตรวจสอบและทำการจับกุมและประสาน สภ.ปานาเระ ภจว.ปัตตานี เพื่อทำการควบคุมตัวเพื่อเฝ้าระวัง (ตามมาตรการ State Quarantine) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 หมายเลขโทรศัพท์ 02-134-0303 ตลอด 24 ชั่วโมง www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง