Project Description

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักในประเทศไทยกระทำความผิดกฎหมายและก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศหรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวกับคนไทยหรือต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมชุดสืบสวนฯ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายมีรายละเอียด ดังนี้
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในย่าน RCA เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตให้บุคคลต่างด้าวสัญชาติจีนรายหนึ่งชื่อ นายฉู (MR.CHU) อายุ 49 ปี อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปเพื่อปฏิบัติงานในฐานะกรรมการ ให้กับบริษัทดังกล่าว ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2561 โดยอ้างว่ามีวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการเงินการลงทุน เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัทดังกล่าว ยังมีกรรมการอีก 2 คน คือ นายจื่อปิง (MR.ZHIPING) อายุ 31 ปี สัญชาติจีน และนายจะละ อายุ 32 ปี สัญชาติไทย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เดินทางไปที่บริษัทดังกล่าว แต่เมื่อเดินทางไปถึงเจ้าหน้าที่พบความผิดสังเกต กล่าวคือ บริษัทดังกล่าวมีการจ้างชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ตัดผมสั้นเกรียน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมอุปกรณ์ครบมือจำนวนหลายคน เดินกระจายกันตรวจตราตามจุดต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่จะเข้าไปตรวจสอบ จึงได้เรียกกำลังมาเสริม และเข้าแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง ชี้แจงเหตุผลการมาตรวจสอบบริษัท ต่อกรรมการบริษัท ทั้ง 3 ราย พร้อมทั้งแสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจ ยินยอมเปิดประตูให้เข้าตรวจสอบ และยินยอมพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินตรวจสอบสภาพทั่วไปของบริษัททีละชั้น ผลการตรวจสอบพบว่า เมื่อเดินเข้าไปตรวจสอบที่บริเวณ ชั้น 4 และ 5 ของอาคารที่ตั้งของบริษัท เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพนักงานทั้งคนไทยและบุคคลต่างด้าวนับสิบราย กำลังใช้งานคอมพิวเตอร์ ทั้งแบบตั้งโต๊ะ และแบบแล็บท็อป โดยมีการเปิดโปรแกรมเฉพาะบางอย่างอยู่ บางส่วนกำลังสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ หรือกำลังพูดคุยโทรศัพท์มือถืออยู่ เมื่อพนักงานทั้งหมดเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ต่างมีการแสดงอาการตระหนกตกใจ บางส่วนที่ตั้งสติได้มีการพยายามปิดโปรแกรมและหน้าต่างสนทนาอย่างรีบร้อนลนลาน บางส่วนมีการพยายามวิ่งหนีออกจากอาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเหตุพิรุธซึ่งหน้า จึงสั่งให้ทุกคนหยุดและถอยออกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการควบคุมสถานการณ์ ตรวจสอบ บันทึกภาพ และเก็บพยานหลักฐาน ผลการตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ยังคงเปิดอยู่หลายเครื่องพบว่า พนักงานส่วนหนึ่งทำหน้าที่ให้บริการสินเชื่อทางการเงินระยะสั้น โดยการชักชวนลูกค้าที่สมัครลงทะเบียนกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันปล่อยสินเชื่อระยะสั้นได้แก่แอพ PIGLOAN และ BESTLOAN ผ่านบทสนทนาทางไลน์แชท โดยแอปดังกล่าวจะให้กู้เงินวงเงินเริ่มต้น 2,500 บาท สามารถกู้ได้โดยไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน และไม่ต้องโอนเงินเข้ามาก่อน แต่ผู้กู้จะได้เงินไปจริงเพียง 1,500 บาท แต่เมื่อครบกำหนด 7 วัน จะมีการทวงถามให้ชำระหนี้เต็มจำนวนคือ 2,500 บาท ซึ่งจะคิดเป็นอัตราดอกเบี้ย (ส่วนที่เพิ่มจากยอดเงินที่กู้) 1,000 บาท หรือคิดเป็นดอกเบี้ย 40% ต่อสัปดาห์ หรือมากกว่า 2,080% ต่อปี ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้พบว่าบนจอภาพของพนักงานอีกส่วนหนึ่ง ปรากฏหน้าเวบไซต์ที่ให้บริการเกี่ยวกับพนันออนไลน์ชื่อเวบไซต์ ibetter.app โดยพนักงานรับว่ากำลังมีหน้าที่ติดต่อ ประกาศโฆษณา หรือชักชวนให้ลูกค้าสมัคร เข้าเล่นเกมการพนันออนไลน์ ผ่าน ibetter.app ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวมการเล่นพนันบนมือถือหลายรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน พนักงานทั้งหมดรับว่าทำงานให้บริษัทดังกล่าวมาเป็นเวลา 1-3 เดือน โดยได้รับค่าจ้างประมาณ 14,000-15,000 บาท จากเจ้าหน้าที่การเงินของบริษัท โดยจะจ่ายเงินเดือนทุกวันที่ 1 ของเดือนเป็นเงินสด เพื่อซ้อนเร้นอำพรางทางบัญชี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ตรวจคัดแยกและสอบปากคำพนักงานจนพบว่า มีพนักงานจำนวน 4 คนเป็นบุคคลต่างด้าวที่ยังไม่มีสถานะทางทะเบียน และไม่มีใบอนุญาตทำงาน จึงได้จับกุมพนักงานทั้ง 4 คน ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าว ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ที่บริเวณชั้น 2 ของบริษัทดังกล่าวยังพบไวน์ และสุราที่ไม่ได้เสียภาษี บรรจุลังวางเกลื่อนกลาดอยู่เกือบ 700 ขวด มูลค่าตามท้องตลาดหลักล้านบาท จึงได้ตรวจยึดของกลางและพยานหลักฐานทั้งหมด และแจ้งข้อกล่าวหากรรมการบริษัททั้งสามคนคือ นายฉู, นายจื่อปิง และนายจะละ ฐานร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกําหนด, ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันออนไลน์, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษี, และรับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน แล้วควบคุมตัวทั้งนำส่งพนักงานสอบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1178 หรือที่ www.immigration.go.th