Project Description

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรม ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมชุดสืบสวนฯ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้


กก.สส.บก.ตม.1 ร่วมกับ ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ศปชก.สตม.) สืบสวนกรณีกลุ่มผู้ต้องหา โดยมี Mr.GUO อายุ 32 ปี สัญชาติจีน ร่วมกับพวก มีพฤติการณ์หลอกลวง นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวจีน ให้มาร่วมทุน โดยอ้างว่าได้มีการเปิดบริษัท ส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีน โดยมีที่ตั้งบริษัทอยู่ที่ พระราม 9 แต่เบื้องหลังผู้ต้องหาได้ใช้บริษัทดังกล่าวบังหน้า เพื่อชักชวนให้กลุ่มนักธุรกิจคนไทยร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล หรือ Crypto Currency ผ่านทางแอพพลิเคชั่น HAC โดยมีการจูงใจและโฆษณาชวนเชื่อว่ามีผลกำไรที่ดี โดยมีผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อ โอนเงินไปร่วมลงทุนกับกลุ่มผู้ต้องหา เมื่อเวลาผ่านไป ได้มีความพยายามทวงถามถึงความคืบหน้าของเงินที่ลงทุนไป แต่กลุ่มผู้ต้องหาบ่ายเบี่ยงและปิดบริษัทหนีไป จนไม่สามารถติดต่อได้ จากการสอบสวนเบื้องต้นพบมูลค่าความเสียหายคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 5 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.วังทองหลาง ซึ่งต่อมาศาลแขวงพระนครเหนือได้อนุมัติหมายจับ Mr.GUO ในข้อหาฉ้อโกง

เจ้าหน้าที่สืบสวน บก.ตม.1 ร่วมกับ ชุด ศปชก.สตม. ทำการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวในคดีนี้จนทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับ Mr.GUO พักอาศัยอยู่ที่เขตพระโขนง กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่สืบสวน บก.ตม.1 ร่วมกับ ชุด ศปชก.สตม. จึงได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญาพระโขนงประกอบหมายจับ เข้าตรวจค้นบ้านพักดังกล่าวเพื่อจับกุมผู้ต้องหา โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปถึงได้แสดงหมายค้นและหมายจับให้ Mr.GUO ดูจนเป็นที่พอใจ จึงเข้าไปตรวจค้นภายในบ้าน พบมีลักษณะตกแต่งภายในเป็นโฮมออฟฟิศ มีอุปกรณ์สำนักงาน และคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก โดยในบางห้องมีการตกแต่งเป็นห้องประชุมสัมมนา มีการนำธงชาติหลายๆประเทศมาตั้งเรียงตกแต่งเสริมความน่าเชื่อถือ และในที่เกิดเหตุยังตรวจพบรถยนต์หรูจำนวนหลายคัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อขยายผล ทำการจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ดำเนินคดี ซึ่งเบื้องต้นพบความเชื่อมโยงกับผู้ร่วมขบวนการทั้งชาวไทยและชาวจีนอีกหลายราย อีกทั้งมีผู้เสียหายมาแสดงตัวเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ และขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ต่อไป


สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง