Project Description

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4 ,พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4และ พ.ต.อ.ธนินทร์ อินทพรต ผกก.ตม.จว.หนองคาย ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา
ตม.จว.หนองคาย ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.4 ได้ร่วมกันจับกุม นางเวียงมน อายุ 28 ปี สัญชาติลาว ตามหมายจับศาล จว.หนองคาย ที่ 159/63 ในข้อหา “ให้ความ ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้พ้นจากการถูกจับกุม”

สืบเนื่องจากกรณี ตม.จว.หนองคาย ได้จับกุมขบวนการลักลอบพาคนข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ซึ่งจากการสืบสวนขยายผล พบว่ามีหญิงต่างด้าวชาวลาว ทราบชื่อ คือ นางเวียงมน อายุ 28 ปี เป็นตัวการสำคัญที่ฝั่งไทยโดยมีการเปิดเฟสบุ้คสาธารณะ และมีการโพสต์ข้อความรับพาคนลักลอบข้ามแดนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย และยังสุ่มเสี่ยงต่อการนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาในประเทศไทย ตม.จว.หนองคาย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมกับร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เวียงคุก เพื่อดำเนินคดีบุคคลดังกล่าว ต่อมาศาลจังหวัดหนองคาย ได้อนุมัติหมายจับ นางเวียงมนฯ ในความผิดฐาน “ให้ความ ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้พ้นจากการถูกจับกุม”

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงวางแผนสะกดรอยนางเวียงมนฯ ผู้ต้องหา โดยการติดติดตามการเคลื่อนไหวจนกระทั่งพบว่า ผู้ต้องหาโพสข้อความชักชวนคนลาวลักลอบข้ามแดน และสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จว.อุดรธานี จึงได้ร่วมกันสืบสวนสะกดรอย จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองอุดรธานี จนได้วางกำลังดักซุ่มดูการเคลื่อนไหวของผู้ต้องหา จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ขณะเดินเท้าออกมาจากห้องพักเพื่อไปซื้อสินค้า เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวพร้อมแสดงหมายจับ ทำการจับกุมผู้ต้องหา ในชั้นจับกุมผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้โพสข้อความเชิญชวนคนมาใช้บริการข้ามแดน และได้ร่วมกับเครือข่ายที่อยู่อาศัยอยู่ ริมแม่น้ำโขงในเขตเมืองหนองคายและฝั่งลาวพาคนลักลอบข้ามแดน โดยคิดค่าจ้างหัวละ 5,000 – 6,000 บาท จริง จากนั้นชุดจับกุมได้นำตัวส่ง พงส.สภ.เวียงคุก จว.หนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขอเรียนให้ท่านทราบว่า เรามีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขันและจับกุมปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง