Project Description

จับแก๊งมาเฟียเกาหลีใต้ อุ้มเรียกค่าไถ่

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาเพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรม ข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม.ร่วมแถลงข่าว ดังนี้

เจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. และ กก.4 บก.สส.สตม. ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายสัญชาติเกาหลีใต้ว่ามีกลุ่มบุคคลสัญชาติเกาหลีใต้ มีพฤติกรรมในการข่มขู่ทำร้ายร่างกายและเรียกค่าไถ่ ในกลุ่มบริเวณ Korea Town โดยได้มีผู้เสียหายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่าได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ได้ทำการจับตัว MR.YOUN อายุ 42 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ไปไว้ที่บริเวณคอนโดเดอะ ทรัส ต.ปากน้ำ อ.เมือง จว.สมุทรปราการ โดยคนร้ายทั้ง 2 คน ให้ผู้เสียหายจ่ายเงิน จำนวน 200,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ผู้เสียหายจึงยอมจ่ายเงินจำนวน 200,000 บาท ให้กับกลุ่มผู้ต้องหาไป เนื่องจากกลัวว่าจะได้รับอันตราย จากนั้นได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ สอบถามผู้เสียหายไม่เคยรู้จักหรือมาปัญหาส่วนตัวกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน ผู้เสียหายเพียงแต่เข้ามาเที่ยวบริเวณ Korea Town ก่อนเกิดเหตุเท่านั้นเอง
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นที่มีพฤติกรรมดังกล่าวคือ MR.ROH หมายเลขหนังสือเดินทาง M๐๖๓๑xxxx สัญชาติเกาหลีใต้ และ MR.KIM หมายเลขหนังสือเดินทาง M๓๓๘๑xxxx สัญชาติเกาหลีใต้ และได้สืบทราบว่าคนร้ายได้ทำกำลังหลบหนีจึงได้ทำการสืบสวนติดตามหาตัวผู้ต้องหาดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๕ ก.ย. ๒๕๖๓ เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. ชุดจับกุมได้ร่วมกันจับกุม MR.ROH ได้ที่บริเวณ สถานีรถไฟปู่เจ้า อ.เมือง จว.สมุทรปราการ ตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.๒๓๑/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๑๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ” และหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จ.๔๒๔/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๒๕ ก.ย. ๒๕๖๓ ข้อหา “ร่วมกัน หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำการด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทำร้าย โดยมีอาวุธติดตัวมา”
จากนั้นได้ทำการขยายผลจนทราบว่า MR.KIM พักอยู่แถวบริเวณห้างเกตเวย์ เอกมัย ซ.สุขุมวิท ๔๒ แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ชุดจับกุมจึงได้ไปทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบ MR.KIM จึงได้ทำการจับกุมตามหมายจับ ของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จ.๔๒๕/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๒๕ ก.ย. ๒๕๖๓ ข้อหา “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตน หรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทำร้าย โดยมีอาวุธติดตัวมา” จากนั้นฝ่ายสืบสวน ได้ทำการให้ผู้ต้องหานำพาไปตรวจค้นห้องพัก พบหนังสือเดินทางของผู้เสียหายที่ผู้ต้องหาได้ยึดไว้ อาวุธขวาน มีดและเชือก ที่ใช้ในการกระทำความผิดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะได้ทำการขยายผลหาผู้เสียหายและกลุ่มคนร้ายเพิ่มเติมต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง